วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Bakso ร้าน CAK IPUL





           Bakso ถือได้ว่าเป็นอาหารยอดนิยมของคนอินโดนีเซีย มีขายทั่วไปและราคาถูก ลักษณะเหมือนก๋วยเตี๋ยวใส่ลูกชิ้นเนื้อในบ้านเรา จะใส่bakso(บักโซ)เป็นหลักและจะมีเครื่องเคียงอื่นๆให้ลูกค้าเลือกเองตามใจชอบ  ร้านที่นำเสนอนี้อยู่บริเวณมหาวิทยาลัยUM เป็นร้านเล็กๆหรือที่เรียกว่าWarung





       


bakso lontong 
      
           ร้านนี้จะมีหลายเมนูให้เลือกหลายชนิด ยกตัวอย่างคือ bakso lontong ก็จะใส่ ลูกชิ้น(bakso),lontongและเครื่องปรุงรสหลักๆก็จะมี ซอสมะเขือเทศ ซอสถั่วเหลืองและพริกสดปั่น ส่วนlontongนั่นก็คือข้าวสวยมาห่อกับใบตองซึ่งข้าวจะจับตัวกันเป็นก้อน เวลากินก็แกะใบตองออกแล้วใช้มีดหั่นเป็นชิ้นๆใส่ถ้วย ใส่ลูกชิ้น(bakso) ใส่น้ำซุป แล้วก็นำมาปรุงรสที่โต๊ะค่ะ รสชาติของlontongจะจืดหอมกลิ่นรอยไหม้ของใบตองนิดๆกินคู่กับลูกชิ้น น้ำซุปร้อนๆปรุงรสตามชอบ และยังมีเครื่องเคียงอื่นๆอีกหลายอย่าง เช่น mie คล้ายเส้นหมี่เหลืองในบ้านเรา ซึ่งคนอินโดนีเซียจะชอบกินมากที่สุดสามารถกินได้สามมื้อเลยก็ว่าได้,tahu คือเต้าหู้ทอด ฯลฯ ซึ่งเครื่องเคียงแต่ละชนิดก็จะมีราคาที่แตกต่างกัน ราคาจะอยู่ที่ชิ้นละ 500-1000 รูเปีย ส่วนลูกชิ้นbakso ลูกละ 1000 รูเปีย  














         ร้านนี้จะให้ลูกค้าบริการตัวเอง เลือกหยิบอาหารเองตามชอบใครอยากกินอะไรก็ทำเองแต่หากเป็นคนต่างชาติก็จะมีพ่อค้ามาทำให้ ส่วนเรื่องเครื่องดื่มร้านนี้จะไม่มีเครื่องดื่มขายแต่เราสามารถสั่งพ่อค้าได้เขาจะบริการสั่งเครื่องดื่มให้จากร้านขายน้ำที่อยู่บริเวณนั้นให้  ร้านwarungแห่งนี้จะมีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาและประชาชนฐานะปานกลางถึงระดับล่าง ราคาถูก สะดวกและพ่อค้ามีความเป็นกันเอง 






น้ำมะพร้าว

         ประเทศอินโดนีเซียมีจำนวนมะพร้าวจำนวนมากจึงมีการบริโภคน้ำมะพร้าวกันอย่างแพร่หลายการบริโภคน้ำมะพร้าวของอินโดนีเซียแพร่หลายมากในประเทศอินโดนีเซียเดินไปทางไหนจะเจอร้านน้ำมะพร้าวอยู่มากมายและข้างๆจะมีร้านบักโซอยู่ข้างๆตลอดแต่การกินน้ำมะพร้าวที่นี้จะไม่เหมือนกับประเทศไทยเพราะที่นี้น้ำมะพร้าวรสชาติจะออกเปรี้ยวๆจะมีการเติมน้ำเชื่ยมเพื่อเพิ่มความหวานมีการใส่เนื้อมะพร้าวขูดสดๆใส่ลงไปเติมน้ำแข็งนิดน้อยรถชาติจะหอมหวานส่วนใหญ่คนมักจะทานพร้อมกับบักโซจะให้ความสดชื่นแก่ร่งกาย



ร้านน้ำมะพร้าวหน้า  UM 

การทำน้ำมะพร้าวแบบสดๆๆ

น้ำมะพร้าวที่มีแต่ช้อน

พรีเซ็นเตอร์น้ำมะพร้าว





เนื้อมะพร้าวชิ้นใหญ่ๆ

 น้ำมะพร้าวของอินโดนีเซียถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ขึ้นชื่่อมากๆเพราะน้ำมะพร้าวสามารถดื่มได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่น้ำมะพร้าวหน้าจะถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากเพราะการบริโภคกันเป็นจำนวนมากและราคาก็ไม่แพงมากบางร้านขาย 4,000 Rp บางร้านขาย 2,500 Rp ขึ้นอยู่กับร้านนั้นเป็นร้านที่ได้รับความนิยมมากหรือไม่สำหรับร้านที่พี่ๆแนะนำมากจะเป็นร้านที่อยู่ข้างๆ UM แต่รสชาติการดื่มของแต่ละคนแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคลบางคนอาจจะชอบร้านอื่นที่แตกต่างกันออกไปก็สามารถมาลิ้มรสกันได้ที่ประเทศอินโดนีเซียนะค่ะ

วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Becak สามล้อรับจ้าง


        Becak สามล้อรับจ้าง

    เรามารู้จักกับการคมนาคมในอินโดนีเซียกันกันดีกว่า อินโดนีเซียมีการคมนาคมมากมายไม่ว่าจะเครื่องบิน รถประจำทาง รถตู้ หรือ สามล้อรับจ้าง เป็นต้น 

           ที่จะแนะนำและทำความรู้จักกับการคมนาคมในอินโดนีเซีย    เป็นการคมนาคมของคนรากหญ้า และเป็นอาชีพที่ทำกันง่ายๆ เช่นกัน สิ่งนั้นก็คือ Becak หรือสามล้อรับจ้าง

            Becak ( มาจากภาษาฮ๊กเกี้ยน : Be chia หรือรถม้า ) คือ การคมนาคมโดยมียานพาหนะ เป็นจักรยานและปรับแต่งให้สามารถโดยสารได้ จะพบ Becak ในประเทศอินโดนีเซีย และทั่วเอเชีย โดยทั่วไปของ Becak แล้วสามารถโดยสารผู้โดยสารได้ 1 หรือ 2 คนเท่านั้น และจะมีคนขับอีก 1 คน 



       Becak เป็นอาชีพที่สามารถทำได้ง่ายที่สุดของการหารายได้ จนกระทั้งทำให้ Becak ทำให้ Becak เพิ่มขึ้นมาก ส่งผลต่อการคมหาคมบนท้องถนนในอินโดนีเซีย ในเมืองจาการ์ต้าจะห้ามใช้ Becak ตั้งแต่ 1980 - ปัจจุบัน



ครั้งแรกกับการนั้ง Becak ใน Malang 



ใช้บริการ Becak ครั้งแรก ด้วยราคา Rp. 7000 


ค่าโดยสารจะเริ่มต้นที่ราคา Rp. 5000 และจะเพิ่มขึ้นตามระยะทางที่เราต้องการ หรืออยู่ที่เราจะตกลงราคากับคนขับ Becak ครับ


              ในประเทศอินโดนีเซียมี Becak อยู่ 2 ประเภท คือ 
                     1. Becak ที่มีคนขับอยู่ด้านหลัง จะพบในเกาะชวา 
                     2. Becak ที่มีคนขับอยู่ข้างๆ จะพบในเกาะ สุมาตรา สำหรับ Bacak ประเภทนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด นั้น คือ 
                         2.1 Becak kayuh คือ สามล้อรับจ้างที่ใช้จักรยานเป็นตัวขับเคลื่อน 
                         2.2 Becak bermotor / Becak mesin คือ สามล้อรับจ้างที่ใช้มอเตอร์ไซด์เป็นตัวขับเคลื่อน

                     

              การเพิ่มตัวของ Becak ในเมือง Malang มากขึ้นเรื่อย ดั้งที่กล่าวมาข้างต้นว่า เป็นอาชีพทำง่าย และสร้างรายได้ให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นอาชีพที่สุจริตหรือเปล่า เนื่องจากว่า ค่าโดยสาร อยากจะสูงมาก หรือ ต่ำ มันอยู่ที่ การพูดคุยกับคนขับ แต่ความรู้สึกว่า การที่ผมเป็นนักศึกษาต่างชาติและพูดภาษาอินโดนีเซียยังไม่คล่อง คนขับก็คิดโก่งราคาโดยสารให้สูงขึ้น แต่ผมก็ยังจะใช้บริการ Becak ในเมือง Malang เพื่ออยากรู้การนั้ง Bacak มีความรู้สึกอย่างไร หลังจากที่ได้นั้ง Becak แล้วดังที่ใจปราถนา ก็รู้สึกสนุกมาก ถ้าหาก พี่ๆน้องๆชาวไทยมาเที่ยวอินโดนีเซียก็อย่าลืมใช้บริการ Becak น่ะครับ...
                

                ปัญหาของ Becak กับการคมนาคม ในเมือง Malang 
            ในเมือง Malang Becak มีจำนวนมากขึ้น เพราะว่าเป็นอาชีพที่ทำง่าย และการเพิ่มขึ้นของ Becak นี้ก็ส่งผมต่อการคมนาคมในเมือง Malang เช่นกัน  
              การจราจรในเมืองก็เริ่มติดขัด เนื่องจาก รถรา มากมาย และเพิ่มจำนวนของ รถมอเตอรไซด์ บนท้องถนนก็จะติดขัดมาก และถ้าหากมีจำนวน Becak เพิ่มขึ้นมากอีก ท้องถนนในเมือง Malang จะมีความวุ่นวายขนาดไหน และบนท้องจะมีเสียงแต่ดังตลอดเส้นทาง เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งบนท้องถนนในอินโดนีเซีย







ขายพันธบัตร เงินตรา อินโดนีเซียมือสอง-หมวดสถานที่ท่องเที่ยว


เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม พ.. 2554 เวลา 09.34 . .ตลาดวันอาทิตย์ ที่เมืองมาลัง หรือภาษาอินโดนีเซียเรียกว่า Pasar Minggu. ผมและเพื่อนได้เดินผ่านไปตามร้านต่างๆ ที่วางขายสินค้าต่างๆ โดยเฉพาะสินค้าที่วางขาย ที่ไม่เหมือนใคร และผมกับเพื่อนน่าจะคบคิดประมาณว่า ร้านที่ขายพันธบัตรอินโดนีเซีย และเงินตราสกุลของอินโดนีเซีย อันเป็นที่ระลึกนั้น ได้รับความสนใจอย่างมากสำหรับผู้คนที่ผ่านไปมา แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็ได้สอบถามเพื่อนชาวอินโดนีเซียหลายคน จึงได้รู้ประมาณว่า สาเหตุที่พันธบัตรอินโดนีเซีย และเงินตราสกุลอินโดนีเซีย ชุดที่ระลึก จนเป็นที่สนใจผู้คนทุกระดับ และผู้ที่ชอบสะสมของเหล่านี้ ส่วนหนึ่งมาจากความรู้สึกที่ว่า พันธบัตรอินโดนีเซีย ที่เริ่มตั้งแต่ยุคซูการ์โน และพันธบัตรยุคซูฮาร์โต สำหรับนักสะสมของเหล่านี้ ต่างยอมรับว่า เป็นของละลึกที่หายากสำหรับพวกเขา โดยเฉพาะชาวอินโดนีเซียปัจจุบัน ที่มักลืมเลือนไปกับพันธบัตรอินโดนีเซียแบบใหม่ โดยเฉพาะพันธบัตรที่ออกใหม่ในช่วงยุคเปลี่ยนผ่าน หรือหลังยุคระเบียบใหม่เป็นต้น
ข้อมูลเพิ่มเติม การขายพันธบัตรเก่า และเงินตราเก่า เพื่อการสะสม หรือเก็บไว้เป็นที่ระลึกนั้น เป็นสิ่งต้องห้ามอย่างมากในยุคประธานาธิบดีซูฮาร์โต เพราะประธานาธิบดีซูฮาร์โตพยายามที่จะให้การนิยามพันธบัตร และเงินตรา เพื่อเป็นเงินตราในการจับจ่ายใช้สอย และมิให้นำพันธบัตร เงินตรา เหล่านี้ถูกนำมาขาย สำหรับนักสะสม  แต่หลังยุคระเบียบใหม่ สภาร่างรัฐธรรมนูญอินโดนีเซียเห็นชอบให้มีการยกเลิกข้อกฏหมายที่มิให้ขายพันธบัตร และเงินตรา

Asrama putri หอพักหญิงใน UM

สวัสดีค่ะ ในวันนี้ก็จะมานำเสนอเกี่ยวหอพักในมหาวิทยาลัย UM นะค่ะ 

                    หอพักโดยภาพรวมนั้นก็มีลักษณะคล้ายกับ หอลักษณานิเวศที่วลัยลักษณ์ ก็คือในแต่ละห้องก็จะมีเตียง 2 ชั้น ทั้งหมด 4 เตียง มีตู้ มีโต๊ะ แต่พื้นที่ที่หอที่วลัยลักษณ์นั้นจะกว้างกว่าหอที่ UM ในความเหมือนก็มีความแตกต่างก็คือ ศาสนา ที่นี้เด็กหอโดยส่วนใหญ่นั้นจะนับถือศาสนาอิสลาม แต่ก็มีเด็กหอบ้างส่วนที่นับถือศาสนาคริสต์ก็มี อย่างเช่นเมทของแหวนนั้น คนหนึ่งนับถืออิสลามอีกคนนับถือศาสนาคริสต์ และในหอนี้นอกจากจะเป็นเด็กอินโดแล้ว ก็ยังมีชาวต่างชาติเข้ามาอยู่ด้วยเช่นกัน ผู้ดูแลหอ(หรือว่า พี่ยาม) นั้นจะเป็นผู้ดูแลอย่างเข้มงวนใครเข้าใครออกก็ต้องมีการรายงาน และเมื่อเราจะเข้าหอนั้นเราก็ต้องมีการทักทายต้องมีมารยาทที่ดี  นอกจากจะมีผู้ดูแลหอ ยังมีผู้ที่ดูแลรองจากพี่ยามที่เป็นเด็กหอเนี่ยและที่จะมีการบอกกฎต่างๆ หรือหัวหน้าผู้ดูแลหอ ให้กับเด็กที่เข้ามาใหม่ ที่นี้จะมีการเซ็นสัญญาที่ต้องปฎิบัติตาม กฎของหอ(อย่างเข้มงวน ใครไม่ทำตามจะมีการรายงานต่อผู้คุมหอ)
             มีการตั้งกฏเกณฑ์มากมายก่ายกอง อาทิเช่น
มีการร่วมกิจกรรมหอ เช่น มีการล้างห้องน้ำ (ล้างและดูแลห้องน้ำกันเองนะจ๊ะ) 
การอยู่รวมกันเมื่อเจอกันพวกเราต้อง ยิ้มแย้มแจ่มใส
มีมารยาทเรียบร้อย 
              เรื่องการแต่งกาย เราต้องแต่งกายให้เรียบร้อย (ไม่ใช่แต่งการเรียบร้อยในความหมายของคนไทยนะ) คำว่าเรียบร้อยของหอพักนี้คือ ในการออกจากห้องคุณต้องไม่ใส่ขาสั้นออกมานอกห้อง และห้ามใส่ผ้าถุงใส่ได้แต่ผ้าถุงที่มียางยืดอันนี้นั้นใส่ออกมาได้ และเวลาอาบน้ำนั้นเราต้องเตรียมเสื้อผ้า ชุดชั้นใน เพื่อที่จะนำไปเปลี่ยนใส่ในห้องน้ำ เพราะเราจะนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวเข้าห้องน้ำไม่ได้นะจ๊ะ และ ถ้าหากเราจะใส่เสื้อผ้าออกมาข้างนอกนั้น ต้องเสื้อผ้านั้นต้องไม่รัดรูป  กางเกงขาสั้นห้ามใส่ แต่ถ้าจะใส่ก็ต้องใส่กางเกงเลยหัวเข่าลงมา และที่สำคัญหอที่นี้ก็จะปิดตอนสามทุ่มประตู่จะปิดตายไม่ให้เข้าเด็ดขาด












 นี้คือหอพักหญิงที่ UM









ภายในหอพัก ก็จะมี 4 ชั้น 













เตียงสองชั้น และตู้ในห้อง นอกจากนี้ยังมีโต๊ะให้คนละ 1 ชุด



บรรยาการเมื่อมองออกไปนอกห้องด้านหลังของหอก็จะเป็นตึกเรียน












และหน้าหอก็จะเป็นวิวของชุมชน ตึกรามบ้านช่องของชาวอินโดนีเซีย



หอพักที่นี้ก็จะมีห้องครัวให้ทำอาหารด้วย เพราะเด็กหอที่นี้ส่วนใหญ่ชอบกินมาม่ากันมาก ตื่นขึ้นมาตอนเช้าเราก็จะได้กลิ่มมาม่าอบอวนอยู่ภายในหอ



โรงซักผ้า ฮ่าๆๆ  ที่นี้จะมีที่สำหรับให้เราซักเสื้อผ้า มีกะละมังให้ใช้ฟรี นะจ๊ะ



ห้อง น้ำ ภายในก็จะมีแยกเป็นห้องอาบน้ำ และห้องส้วม และการดูและรักษาความสะอาดเราต้องทำกันเองนะจ๊ะ การตกแต่งภายในห้องน้ำ นะค่ะ อิอิ ส้วนเป็นแบบนั่ง ขับอาบน้ำก็จะเป็นที่เราใช้สำหรับล้างก้น ฮ่าๆ เราก็ต้องทนๆใช้กัน


และนี้ก็คือ ภาพรวมภายในหอพักที่ UM นะค่ะ Nitchakan Kumjornrit.


วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2554

KFC อินโดนีเซีย


           KFC เป็นอาหารฟาสต์ฟู้ด สำหรับคนใดที่ไม่คุ้นลิ้นกับอาหารอินโดนีเซียพื้นบ้าน ในเมืองนี้ก็มีอาหารฟาสต์ฟู้ดให้บริการอยู่ให้เห็นทุกมุมเมืองและตามห้างสรรพสินค้า    แต่รสชาติจะดัดแปลงให้สอดคล้องกับคนอินโดนีเซียและจะค่อนข้างจืด  ถ้าไก่สั่งแบบเผ็ดก็จะไม่เผ็ดเท่าไรถ้าเทียมกับบ้านเรา  และเนื้อไก่จะไม่ฟูแป้งที่ใช้ทอดไม่หนา ( ไก่ที่นี้ก็น้อยไปนิดนะ555+)
ร้านKFC เค เอฟ ซี ที่อินโดนีเซียจะเรียกว่า กา เอฟ เจ ราคาและบรรยากาศภายในร้านไม่แตกต่างกันมากเท่าไหร่นัก   ผู้คนมากมายต่อแถวรอซื้อเพียงแต่ที่นี่ผู้คนส่วนใหญ่จะกินด้วยมือหากแต่ต้องการใช้ช้อน ส้อมก็จะมีบริการอยู่ข้างหน้าเคาเตอร์   ครั้งแรกที่ได้มาลิ้มลองKFCที่นี่พวกเราไม่ได้ใช้ช้อนรับประทานกันตามแบบคนพื้นเมืองปรากฏว่ามันร้อนจนแสบมือมากๆ เรียกได้ว่ามือพอง แดงกันเลยทีเดียวและน้ำจะแก้วเล็กกว่าที่เมืองไทยบ้านเราอยู่มาก และเติมไม่เต็มแก้ว   คนที่นี่จะไม่ชอบกินน้ำเย็นๆ น้ำที่นี่เลยมีน้ำแข็งน้อยมากและเมื่อสั่งกลับไปกินที่บ้าน ใส่กล่องเหมือนKFCบ้านเราเพียงแต่น้ำที่ใส่ในแก้วจะใส่ถุงพลาสติกผูกยางอีกทีหนึ่ง  มันแปลกดีน่ะ!!!

                   

           มีช้อนสำหรับคนที่ไม่อยากจะใช้มือกิน                         
             

มีข้าวด้วย ^_^


                                                                                                
       สั่งใส่กล่องกินที่หอโปรดสังเกต!แก้วน้ำใส่ถุงผูกยาง



                             มีบริการส่งถึงที่ 24 ช.ม. ด้วย  
                 
     
และฟาสต์ฟู้ดไก่ทอดแบรนด์พื้นบ้านมี CFC ซึ่งลอกเลียนแบบมาจาก KFC เต็มๆ รายละเอียดอื่นๆของ CFC ก็มีเมนูและราคาคงไม่แตกต่างกันมาก ( ยังไม่เคยได้ลิ้มลอง ) ครั้งนี้เอาบรรยากาศหน้าร้านไปก่อน 555+   ยังไงๆก็ติดตามต่อกันได้นร๊า



                                                         นี่ไง>>โฉมหน้าร้านCFC ที่ลอกเลียนแบบ KFC





MAKAN LA LA PAN

LALAPAN


          ร้าน LALAPAN (ลา ลา ปัน)ที่ร้านมีอาหารให้เลือกมากมายทั้ง ไก่ทอด เป็ดทอด ปลาทอด  และยังมีผักเคียงและน้ำพริกที่ไปเหมือนที่อื่นๆ  ซึ่งรับประทานกับไก่ทอด เป็ดทอด หรือปลาทอด ซึ่งรับประทานกับข้าว   ข้าวคนอินโดนีเซียเรียกว่า NASI  (นาสิ)ราคาประมาณ 16,000 รูเปียร์

                ร้านLALAPAN หลายที่ซึ่งในเเต่ล่ะที่นั้นจะมีความเเตกตางทางด้านรสชาติ เเละลักษณะวิธีการทำก็ไม่เหมือนกัน  การรับประทานอาหารที่อินโดนีเซียจะมีการรับประทารโดยการใช้มือเปล่าๆ  ซึ่งทางร้านจะมีการบริการน้ำสำหรับล้างมือโดยใส่ถ้วยสำหรับบางร้านจะมีเปลือกมะนาวที่คั้นน้ำแล้วใส่ในถ้วยน้ำเพื่อลดกลิ่นคาวเเละคราบมันที่ปะปนมากับอาหาร  สำหรับคนที่ต้องการรับประทานกับช้อนที่ร้านมีช้อยให้บริการ


                  น้ำดื่มมี ทั้งน้ำส้มเย็น น้ำส้มร้อน  น้ำชาดำร้อน  น้ำชาดำเย็น น้ำชาดำหวาน น้ำเปล่า  น้ำอัดลม ฯลฯ 
                  ร้านLALAPAN ตั้งไม่ไกลกับมหาวิทยาลัย UM.เเละสามารถหารับประทานได้โดยทั่วไป

 น้ำพริกสำหรับรับปบประทานกับไก่ทอด เป็ดทอด ปลาทอด

รับประทานกับมือถึงจะได้รสชาติที่ดีกว่ารับประทานกับช้อนน่ะจร้า ^-^

บรรยากาศหน้าร้าน   ต้องรอคิวกันยาวมากๆ  แต่ถ้าได้ชิมเเล้วจะติดใจ


****ใครที่ผ่านมาแถวๆมาลัง  ก็อย่าลืมมาชิมที่ร้านLALAPAN****

angkot,Malang

      การเดินทางในเมืองมาลัง ประเทศอินโดนีเซีย เป็นสิ่งที่ชาวต่างชาติต้องทึ่ง ตะลึง การการจราจรบนท้องถนนที่ครึกครักเต็มไปด้วยบรรดารถต่างๆ แถมบนท้องถนนไม่มีแม้ทางฟุตบาทเหมือนบ้านเรา รถราแล่นด้วยความเร็ว ทั้งรถยนต์ จักรยานยนต์ รถรับจ้างประจำทาง แต่สิ่งที่ทำให้ชาวต่างชาติอย่างเราเราประทับใจ คือรถจักรยานยนต์ที่แล่นบนถนนทั้งคนขับและคนซ้อนท้าย ต่างใช้หมวกกันน็อกกันทั่วทั้งเหมือง และไม่ค่อยที่จะเห็นตำรวจตรวจจับรถบนถนน แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่คนต่างผมสนใจในเมืองมาลัง  กลับกลายเป็นรถประจำทางสายต่างๆ ในตัวเมือง ที่ผู้คนเรียกข่านกันว่า angkot จะมีให้บริการหลายสายมาก  จากการที่ผมกับบรรดาเพื่อนๆ ของผมลองใช้บริการมันน่าสนใจในหลายๆ มุมมอง ไม่ว่าจะเป็นค่าโดยสาร  Rp.2500  ตลอดสาย แถมยังมีที่นั่งเสริมไว้คอยบริการอีกด้วย และการขึ้น angkot ของคนเมืองนี้แบบว่าขึ้นก่อนแล้วนั่งตรงไหนคนที่ขึ้นหลังต้องหาที่ว่าง(อารมณ์แบบว่ากูไม่เลื่อนให้นะขึ้นหลังเข้าข้างใน) เอาเป็นว่ารายละเอียดปลีกย่อยเดี่ยวจะนำมารายงานให้ทราบในโอกาสต่อไป
 
     








      Salamat Hari in(ซาลามัตฮารีอีนี่) สวัสดีสำหรับวันนี้ เป็นคำกล่าวทักทายของชาวอินโดนีเซีย ซึ่งก็เป็นอีกวันสุดสัปดาห์ ที่ผมได้มีโอกาสเดินทางไปที่แห่งหนึ่งในเมืองมาลัง คือตลาดอาทิตย์ เปรียบเสมือนตลาดนัดวันอาทิตย์บ้านเรา  แต่ที่ต่างกันก็คือที่นี่จะมีนัดตอนเช้าของวันอาทิตย์ ผมขึ้นรถ angkot สาย AL จากที่พักเพื่อเดินทางไปยังตลาด บนถนนสายหนึ่งมีชื่อว่า JL.semeru ด้วยเวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงตลาดนัด ผมใช้เวลาในการเดินเพื่อดูของที่ตลาดประมาณชั่วโมงกว่า หลังจากนั้นเดินเท้าต่อไปยังร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้กับตลาด ตรงข้ามกับสนามกีฬา SATADION KAJAYANA เป็นร้านอาหารไก่บ้านทอดที่ผมและเพื่อนลองไปกินดู(ไก่บ่านทอดอร่อยมากเสิร์ฟพร้อมข้าวสวย) ทานเสร็จถึงเวลาเก็บเงิน! ด้วยราคา Rp. 150.000 (ก็แบบว่าคนมีเงินทาน มือละแสนกว่า อิอิอิ) เสร็จจากร้านอาหารต้องเดินเท้าต่อไปยังหน้าถนนเพื่อรอขึ้น angkot กลับที่พัก     


      เมื่อถึงเวลาขึ้นรถ ผมเจอกับบรรยากาศจริงที่เคยเล่าไว้ในรอบก่อน คือเจอกับที่นั่งพิเศษที่ต้องลากที่นั่งที่ทำกับไม้ ที่สอดไว้ใต้ที่นั่งที่ติดกับรถ ลากออกมาตรงประตูทางขึ้นแล้วนั่งหันหน้าออกนอกถนน(รับลมแบบเต็มๆ จัดมาคนมาลัง)   บรรยากาศภายในรถก็ใช่ย่อย(นั่งกันเต็มไม่ขยับ แบบว่าเข้าข้างในสิอีปลวก อิอิอิ กูไม่ขยับให้ใครจะทำไม่ อิอิ)  แต่ก็เป็นสิ่งที่หาไม่ได้จากที่อื่นๆ นะบอก เวลาจะบอกให้ pak หรือคนขับจอด ต้องบอกว่า (kiri ya pak) ประมาณว่าจอดด้านซ้ายให้ด้วย จะลงแล้วก็จ่ายเงินค่ารถตามที่บอกว่า Rp.2500 ตลอดสายของสายรถ angkot ที่ขึ้นแต่ละสายนะ เช่น สาย AL, GL, ADL, ..., เป็นต้น ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเดอนทางไปที่ไหนด้วยครับ

                                               








      และแล้ววันนี้ผมก็สามารถเดินทางไปในที่ที่ผมต้องการจะไปด้วยรถประจำทางในเมืองมาลัง ด้วย angkot AL ที่มีให้บริการอยู่ข้างหน้าที่พักที่ผมพักอยู่ กับ angkot GL  เป็นอันว่าวันนี้ผมเดินทางด้วยรถประจำทาง และเดินเท้า(จนต้องซื้อรองเท้าผ้าใบคู่ไหม่นะ คิดดู)  คือต้องบอกก่อนว่าการเดินทางไปไหนมาไหนในเมืองมาลังด้วยการเดินเท้า เป็นอีกหนึ่งวิธีของการเรียนรู้วัฒนธรรม ของคนท้องถิ่น และเรียนรู้สถานที่ต่างๆ ที่เราสามารถพบเห็นได้ด้วยสายตาตลอดการเดินทาง มันทำให้ผมประทับใจกับทริปการเดินทางมายังอินโดนีเซียเป็นครั้งแรกในชีวิต ที่น่าประทับใจที่สุดทั้งผู้คนมากมาย และภาพเมืองมาลังในยามอรุณและยามราตรีที่แสนสั้น